เทคโนโลยีที่จัดว่าเป็นเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงานภายใต้โครงการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
ในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจในครั้งนี้ ต้องเป็นเทคโนโลยีที่มีลักษณะตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
มีศักยภาพในการประหยัดพลังงานสูง
เนื่องจากเทคโนโลยีทั่วไปที่มีการประยุกต์ใช้งานในปัจจุบัน เพื่อการอนุรักษ์พลังงานในระบบหรืออุปกรณ์ สามารถก่อให้เกิดผลการประหยัดพลังงานอยู่ในระดับหนึ่ง ดังนั้นเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ควรเป็นเทคโนโลยีที่สามารถก่อให้เกิดผลการประหยัดพลังงานที่สูงกว่าเทคโนโลยีทั่วไปที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน
หลักเกณฑ์
ต้องเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการประหยัดพลังงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 (กรณี Utility) และไม่น้อยกว่าร้อยละ 15
(กรณีกระบวนการผลิต) เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีเดิมที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
ยังไม่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศไทย
การพิจารณาคัดเลือกเทคโนโลยีเชิงลึกที่จะสนับสนุนงบประมาณสำหรับดำเนินการ ควรเป็นเทคโนโลยีที่ยังไม่มีการนำมาใช้งานในประเทศไทยอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้งาน ซึ่งจะก่อให้เกิดผลการประหยัดพลังงานโดยรวมของประเทศสูงมากขึ้น
หลักเกณฑ์
ความแพร่หลายของเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ ต้องเป็นเทคโนโลยีที่มีการประยุกต์ใช้งานในสถานประกอบการต่างๆ ในทุกๆ กลุ่มอุตสาหกรรมและธุรกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน รวมกันทั้งหมดไม่เกินกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนสถานประกอบการทั้งหมดที่สามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปประยุกต์ใช้งานเพื่อการอนุรักษ์พลังงานได้
มีศักยภาพในการขยายผลเพื่อการอนุรักษ์พลังงานสูง
เทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ ควรเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำไปขยายผลใช้งานเพื่อการอนุรักษ์พลังงานในสถานประกอบการต่างๆ ในทุกๆ กลุ่มอุตสาหกรรมและธุรกิจของประเทศไทยได้อย่างกว้างขวางในอนาคต เพื่อให้เกิดผลการประหยัดพลังงานโดยรวมของประเทศสูงสุด
หลักเกณฑ์
เทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ ต้องเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานในสถานประกอบการต่างๆ ในทุกๆกลุ่มอุตสาหกรรมและธุรกิจของประเทศไทย ซึ่งมีการใช้พลังงานรวมกันทั้งหมดไม่น้อยกว่า 300 ktoe/ปี
มีระยะเวลาคืนทุนสั้น
เทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ ควรมีระยะเวลาการคืนทุนที่เหมาะสมเพื่อความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
หลักเกณฑ์
เทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ ต้องเป็นเทคโนโลยีที่มีผลตอบแทนทางการเงินต่อการลงทุน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี
มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมน้อย
เทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ ควรคำนึงถึงการใช้งานที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
หลักเกณฑ์
เทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ ต้องเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมโลกหรือมีค่าไม่เกินกว่า ค่ามาตรฐานที่กำหนดของประเทศไทย
ไม่มีการสาธิตในโครงการสาธิตเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 1- ระยะที่ 3
เทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการในโครงการฯ ระยะที่ 4 ต้องเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เคยทำการสาธิตในโครงการฯ ระยะที่ 1 – ระยะที่ 3 มาก่อน
หลักเกณฑ์
ต้องเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้ทำการสาธิตในโครงการสาธิตเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 1 - ระยะที่ 3 จำนวน 17 เทคโนโลยี ดังนี้
ดังนี้
1. หัวเผาแบบรีเจนเนอเรทีฟ
2. การลดความชื้นด้วยฮีทไปป์
3. การใช้ปั๊มความร้อนสำหรับการทำความร้อน
4. การลดความชื้นด้วยสารดูดความชื้นเหลว
5. การบำบัดและปรับสภาพน้ำด้วยโอโซน
6. เครื่องอบตกแต่งสำเร็จผ้าผืนประสิทธิภาพสูง
ต้องเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้ทำการสาธิตในโครงการสาธิตเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 2 จำนวน 6 เทคโนโลยี ดังนี้
1. เครื่องทำน้ำเย็นชนิดปรับความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์ (VSD Chiller)
2. หัวเผาแบบเซล์ฟรีคัพเปอร์เรทีฟ (Self-Recuperative Burner)
3. ปั๊มความร้อนแบบดูดซึม (Absorption Heat Pump)
4. เครื่องทำน้ำเย็นแบบดูดซึม (Absorption Chiller)
5. หัวเผาแบบ Oxy Fuel
6. เครื่องฉีดพลาสติกชนิดใช้ไฟฟ้าทั้งหมด (All Electric Injection Machine)
ต้องเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้ทำการสาธิตในโครงการสาธิตเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงานระยะที่ 3 จำนวน 5 เทคโนโลยี ดังนี้
1. เทคโนโลยี Infrared Heater
2. เทคโนโลยี Plasma Annealer
3. เทคโนโลยี Fresh Air Pre-Cooling & Dehumidification
4. เทคโนโลยี Organic Rankine Cycle
5. เทคโนโลยี Once Through Boiler